ลบคิ้ว แบบไหนดีที่สุด

วิธีนี้จะเป็นการ สักสีเนื้อลงไปทับบริเวณสีคิ้วที่เกินออกมา เพื่อปิดสีคิ้วส่วนที่ไม่ต้องการให้มองไม่เห็น ไม่ได้เป็นการเอาสีออกแต่อย่างใด สำหรับวิธีนี้เหมาะสำหรับใช้กับลบรอยสักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะช่วยกลบโครงคิ้วให้ดูสวยเป็นธรรมชาติขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่เหมาะถ้าหากจะใช้กลบสีคิ้วส่วนใหญ่ เพราะมันจะเห็นเป็นรอยด่าง และทำให้มองเห็นสีเนื้อลอยออกมาชัดเจน อาจจะกลายเป็นไม่สวย และทำให้มีปัญหาหนักขึ้นกว่าเดิม

เนื่องจากสีสกินราคาไม่แพง หาซื้อง่ายตามร้านขายอุปกรณ์สักคิ้วทั่วไป จึงมีการใช้สีสกินแก้คิ้วกันเป็นจำนวนมาก และใช้แบบไม่ถูกวิธี จึงทำให้เกิดปัญหาคิ้วพังมากยิ่งขึ้น และยิ่งจะทำให้การแก้คิ้ว ลบคิ้วนั้น ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เสียเวลามากขึ้น

ตัวอย่างการลบด้วยสีสกิน ที่ไม่แนะนำให้ทำอย่างยิ่ง ทำให้เห็นเป็น คิ้ว 2 ชั้น คิ้ว 2 หาง คิ้วด่าง ตามรูปด้านล่าง

สำหรับวิธีนี้จะเป็นการใช้แสงเลเซอร์ยิงเพื่อลบส่วนคิ้วที่บกพร่อง แสงเลเซอร์จะไปทำให้เม็ดสีที่ฝังตัวอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแตกตัวและกระจายออก จนทำให้ไม่เห็นสี ซึ่งวิธีนี้จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อสักคิ้วถาวรไปแล้วประมาณ 1-2 เดือน ซึ่งหลังจากยิงเลเซอร์อาจจะทำให้คิ้วมีการตกสะเก็ดและสะเก็ดนั้นจะค่อย ๆ หลุดออกมาพร้อมกับสีคิ้วเก่าที่สักไปนั่นเอง แต่บางรายอาจจะต้องยิงเลเซอร์ซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ขึ้นอยู่กับความเข้มของสีคิ้วเก่าที่สักลงไป สำหรับวิธีนี้อาจจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง เพราะผิวบริเวณคิ้วอาจจะบวมแดง ขนคิ้วหาย หรือเกิดเป็นแผลเป็นได้ ดังนั้นหากใครที่จะเลือกลบรอยสักคิ้วด้วยวิธีนี้จึงควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่วางใจได้ และอยู่ในโรงพยาบาลหรือคลีนิคที่มีแพทย์เฉพาะทางจะดีที่สุด

สำหรับการลบรอยสักคิ้ว ตามประสบการณ์ของอ.ต่าย เห็นว่า “คิ้ว” อยู่บนบริเวณใบหน้า ที่มีผิวบอบบางกว่าส่วนอื่นบนร่างกาย และ “คิ้ว” ยังเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของใบหน้า เพราะ “คิ้วเป็นมงกุฎของใบหน้า” และด้วยหลักการทำงานของเลเซอร์คือ การทำให้เม็ดสีแตกตัวและกระจายออก หลายครั้งที่เห็นลูกค้าไปลบคิ้วด้วยเลเซอร์ยิ่งทำให้สีสักกระจายใหญ่ขึ้น เป็นแผลเป็น ขนคิ้วล่วง เซลล์ผิวถูกทำลาย และผิวไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้อีก

ดังนั้น อ.ต่าย เห็นว่า การลบคิ้วด้วยเลเซอร์ ไม่ใช่วิธีที่ดีสักเท่าไรนัก มีความเสี่ยงอยู่มากที่เดียว ตามตัวอย่างรูปด้านล่าง

ส่วนมากจะอ้างว่า “สมุนไพรลบคิ้ว” แต่แท้จริงแล้วคือ “น้ำกรด” ดี ๆ นี่เอง อันนี้ต้องระวังอย่างมาก เนื่องจากไม่มีมาตรฐานการผลิต ไม่มีสถาบันรับรองความปลอดภัย ผลิตเองในประเทศไทย บางยี่ห้อก็อ้างว่าขอ อย. เรียบร้อย แต่แท้จริงขอจดทะเบียนเป็นเครื่องสำอางเท่านั้น แล้วอ้างว่า เป็น สมุนไพรลบคิ้ว สมุนไพรออแกนิค หรือแล้วแต่จะเรียก ราคาถูก ราคาหลักร้อย ถึงพันต้น ๆ หาซื้อได้ง่าย สั่งซื้อผ่านเฟสบุ้คกันง่าย ๆ ผลที่ได้คือ ลบสีออกหมดจริง แต่ได้แผลเป็นแถมมาด้วย บางรายแผลเหวอะหวะ ต้องเสียเงินรักษาผิวอีกหลาย แถมแผลยังลามออกไปเกินที่ลบ กลายเป็นแผลใหญ่โตมาก และส่วนใหญ่ ไม่มีครีมหรือยาอะไรให้ลูกค้าเอากลับไปรักษาผิวด้วย แบบว่า มักง่ายมาก ๆ

ขอยกตัวอย่างยี่ห้อน้ำยาดรอปสีคิ้วที่อาจารย์ใช้อยู่นะคะ

น้ำยาล้างคิ้ว ONE TWO : Made in USA

• ใช้กับคิ้วที่ทำไปแล้วเกิน 1 เดือนขึ้นไป ใช้ล้างสี (Drop) เหมาะกับเคสที่ต้องการให้สีคิ้วจางลง ไม่ใช่การแก้ทรงคิ้ว
• ใช้ล้างคิ้วก่อนแก้สี หรือเหมาะกับลบคิ้วที่ไม่เข้มมาก หรือค่อนข้างจางแล้ว น้ำยาจะทำหน้าที่ให้สีคิ้วดูจางลงเท่านั้น แต่ไม่ได้เอาสีออก

ข้อเสีย

1. เห็นผลช้า ไม่เหมาะกับการลบคิ้ว เหมาะกับการล้างสี (Drop) ให้สีอ่อนลงเท่านั้น
2. ลบสีสกินไม่ได้
3. ลบสีสักตัวหรือสีเคมีไม่ได้

ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะได้ผลดี ไม่มีแผลเป็น ลบได้ทั้งสีสักคิ้ว สักตัว สีสกิน หลักการทำงานคือ น้ำยาจะลงไปดึงสีใต้ชั้นผิวหนังทันที จึงเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
เซรั่มชักสีที่อ.ต่าย ใช้ “น้ำยาลบรอยสักรีจูวี่” Rejuvi USA ตัวนี้ได้มาตรฐานสากล ใช้แพร่หลายทั่วโลก และยังใช้ในโรงพยาบาล ซึ่งมีการรับรองแล้วว่าปลอดภัย ได้ผลในการลบสีสักได้จริง ไม่มีแผลเป็น100% มีครีมบำรุงหลังลบ เพื่อดูแลผิวให้กลับสภาพเดิมได้ 100%

น้ำยาลบคิ้วรีจูวี่( Rejuvi) : ใช้ลบรอยสักได้ทุกชนิด ลบคิ้วถาวร ลบสีสกิน ลบสีสักตัว

ข้อดี

1. ลบสีสักได้ทั้งสีสักคิ้ว ลบคิ้วถาวร สักตัว สีสกิน ลบออกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ลบออกได้มากกว่า 50-80% ขึ้นกับความลึกของรอยสัก
2. มีครีมบำรุงผิวให้ลูกค้ากลับไปดูแลผิวหลัง ลบคิ้ว ทำให้ไม่มีแผลเป็น100%
3. ปลอดภัย ได้มาตรฐานระดับโลก ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากอเมริกา

ข้อจำกัด

1. ราคาสูง แต่หากเทียบกับคุณภาพแล้ว ราคาถือว่าถูกกว่าวิธีอื่น เพราะลบสีสักได้จริง และไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องไปเสียค่ารักษาผิวอีกหลายแสน แถมยังช่วยสร้างเครดิตให้กับช่าง เพราะแก้งานได้จริง งานจบ